เพาะเห็ดนางฟ้า ไว้กินเองที่บ้าน ให้ออกดอกสวยงาม ประหยัดต้นทุน นับว่าเป็นกิจกรรมยามว่างที่มีประโยชน์มากๆเลยทีเดียวค่ะ และเป็นกิจกรรมที่ทำให้เราคลายเครียดได้อีกช่องทาง แถมยังมีเห็ดไว้รับประทานเอง ใช้ทำอาหารได้สารพัดอย่างอีกด้วย โดยเห็ดที่กำลังเป็นที่นิยมนำมาทำอาหารและมีรสชาติที่อร่อยนั่นคือ “เห็ดนางฟ้า” นั่นเอง Thaioffer จะพามาดูวิธีการเพาะเห็ดนางฟ้ายังไงให้ดอกสวย เก็บเกี่ยวผลผลิตนำมาประกอบอาหาร เห็ดปลอดสารพิษ มาดูกันเลย
เรื่องน่ารู้ก่อนที่เราจะเพราะเห็ดนางฟ้ากันนะคะ
เห็ดนางฟ้า ปลูกกี่วัน
เห็ดนางฟ้า ปลูก 25-30 วัน ก็จะสามารถเก็บผลผลิตมาทำอาหารได้แล้ว โดยก้อนเห็ดนางฟ้า 1 ก้อน จะให้ผลผลิตประมาณ 12-15 รุ่น และจะหมดอายุ เมื่อมีอายุประมาณ 3-4 เดือน ให้ผลผลิตครั้งละ 3-4 ขีด
เพาะเห็ดนางฟ้า ชนิดไหนดี
ส่วนใหญ่แล้วคนนิยมปลูกเห็ดนางฟ้าอยู่ 2 ชนิด คือ เห็ดนางฟ้าอินเดีย และเห็ดนางฟ้าภูฏาน โดยเห็ดนางฟ้าภูฏานนิยมปลูกเพื่อขาย เนื่องจากจะออกดอกเร็ว สามารถให้ผลผลิตได้อย่างต่อเนื่องและขายได้ราคาดี
1. หาซื้อก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้า ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลายแหล่งมากๆ เช่น ตามร้านขายเชื้อเห็ด หรือฟาร์มเห็ดโดยตรงที่เจ้าของเพาะเชื้อเห็ดขายด้วย
2. เตรียมทำเล หรือสถานที่ที่เราจะทำการเพาะ สิ่งสำคัญเลยก็คือพื้นที่จะต้องสะอาด มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่เป็นทิศทางลมโกรกแรง และไม่โดนแสงแดดจัดหรือโดนฝน
3. ดัดแปลงอุปกรณ์ที่มีอยู่ให้เป็นชั้นวางเห็ด เช่น มุมล้างจานใกล้เคาน์เตอร์ครัวหลังบ้าน ถ้าเรามีชั้นพลาสติกที่ไม่ได้ใช้งานก็สามารถนำมาทำเป็นชั้นวางเห็ดได้เช่นกัน แล้วจัดวางก้อนเห็ดในแนวนอน เรียงซ้อนกันหรือแขวนเป็นพวงก็สามารถช่วยประหยัดพื้นที่ หรือหาไอเดียจัดมุมสวนเห็ดใกล้กับระเบียนหลังบ้าน หรือระเบียงคอนโดเล็กๆ แค่นี้ก็ใช้เป็นพื้นที่เพาะเห็ดได้แล้ว
4. เปิดดอก คือการเปิดถุงให้เห็ดออกดอก ถ้าวางแนวก้อนเชื้อในแนวนอน ควรจะเปิดจากปากก้อนเชื้อ หรือกรีดด้านข้างหรือก้นถุง
5. ดูแลต่อ รักษาความชุ่มชื้น หมั่นฉีดพ่นน้ำ ถ้าพื้นที่ล่างเป็นดิน ทราย หรืออิฐมอญ จะช่วยให้ก้อนเชื้อเห็ดได้รับความชื้นอยู่สม่ำเสมอ จะช่วยให้เห็ดออกดอกอยู่เรื่อยๆ หรืออาจจะใช้ผ้าพาสติก หรือผ้าฝ้ายหนา ชุบน้ำชื้นๆ คลุมก้อนเห็ดเพื่อรักษาความชื้นก็ได้
6. รอเส้นใยเจริญ หลังจากที่เปิดดอกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม อีก 7-10 วัน ก็จะเริ่มเกิดดอกเห็ดเล็กๆ ออกจากปากถุงและรอยกรีด รออีก 1-2 วัน ดอกเห็ดก็จะใหญ่ขึ้น เราก็สามารถตัดเก็บมาทำอาหารได้เลย
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอัพเดตใหม่ๆ ได้ที่ www.thaioffer.net เพื่อไม่ให้พลาดเรื่องราวดีๆ
