10 สถานที่ท่องเที่ยวในแดนอีสาน Travel Northeastern คัดมาแบบเด่นๆ ห้ามพลาดคุณต้องไปให้ครบ ภาคอีสาน หรือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภูมิภาคที่มีเนื้อที่มากที่สุดในประเทศไทย มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมที่โดดเด่นเฉพาะมากๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร การแต่งกาย ดนตรี ศิลปะต่างๆ แถมยังมีสถานที่ให้เชคอินเยอะๆมากๆ วันนี้เรามาดูกันนะคะว่าที่ไหนที่คุณห้ามพลาด ที่จะต้องไป เชคอิน สักครั้งเมื่อไปถึงแดนอีสาน

1.ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เป็นปราสาทหินเก่าแก่สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพูเป็นส่วนใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาไฟเก่าที่ดับสนิทไปแล้ว คำว่า “พนมรุ้ง” เป็นภาษาเขมรแปลว่า “ภูเขาใหญ่” และยังมีปรากฎการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาท เกิดขึ้นเพียง 4 ครั้งต่อปีเท่านั้น นั่นคือช่วงดวงอาทิตย์จะขึ้น ระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน  และ 8-10 กันยายน และในช่วงดวงอาทิตย์จะตกระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม และ วันที่ 6-8 ตุลาคม นั่นเอง นับว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก และยังมีประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งจัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปีอีกด้วย สำหรับใครที่อยากจะมาชมความงามแนะนำให้มาช่วงนี้เลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง

2.สามพันโบก จ.อุบลราชธานี

สามพันโบก เป็นกลุ่มหินทรายแนวเทือกเขาภูพานตอนปลาย ทอดตัวยาวเป็นสันดอนที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ความโดดเด่นคือหลุมเล็กใหญ่จำนวนมาก ที่เกิดจากการถูกกระแสน้ำกัดเซาะ ซึ่งแก่งหินสามพันโบกจะอยู่ใต้ลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลากประมาณกลางเดือน กรกฎาคม-ตุลาคม จะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาในช่วงฤดูแล้งเท่านั้น ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน-มิถุนายน เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติที่งดงามและแปลกตามากๆทำให้นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายภาพกันจำนวนมาก

3.ทะเลบัวแดง บึงหนองหาน จ.อุดรธานี

ทะเลบัวแดงเป็นบึงน้ำจืด แหล่งน้ำธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย พันธุ์ปลา พันธุ์นก และพืชน้ำจำนวนมาก ดอกบัวจะออกดอกโดยมีปริมาณมากที่สุดในช่วงเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ และค่อยๆลดปริมาณลงในเดือนมีนาคม ดอกบัวจะบานในช่วงเช้าตรู่จนถึงประมาณ 11.00 น. จะมองเห็นดอกบัวแดงบานเต็มท้องน้ำหนองหาน สุดลูกหูลูกตาแบบหาที่เปรียบไม่ได้

4.พิพิธภัณสถานแห่งชาติบ้านเชียง จ.อุดรธานี

แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงถูกจดให้เป็นมรดกโลก ทางประวัติศาสตร์ อารยธรรมโบราณ เป็นอาคารจัดแสดง จำนวน 3 อาคาร เชื่อมต่อกัน ข้างในจัดแสดงความเป็นมาของไหโบราณลวดลายต่างๆรวมไปถึงการตั้งถิ่นฐานของคนในสมัยก่อน ตั้งอยู่อำเภอหนองหาน จะห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร

5.พิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์

เป็นสถานที่ม่องเที่ยวที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับครอบครัว ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นสถานที่เก็บรวบรวมโครงกระดูกของไดโนเสาร์ที่พบในบริเวณนี้ในอดีตได้อย่างครบถ้วน  เมื่อก่อนจะเป็นศูนย์วิจัย ภูกุ้มข้าว ซึ่งเป็นแหล่งที่พบโครงกระดูกของไดโนเสาร์กินพืช ที่มีความอุดมสมบรูณ์ที่สุดของประเทศไทย ภายในอาคารจะจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ อลังการมากๆ สามารถมาเดินเที่ยวตากแอร์เย็นได้แบบสบายเลยค่ะ

6.เชียงคาน จ.เลย

เชียงคานเป็นเมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ติดแม่น้ำโขงรายล้อมไปด้วย วัฒน ธรรม อาคารบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ ร้านค้า และจุดเชคอินอีกมากมาย รวมไปถึงที่รู้จักกันเรียกว่า “ถนนคนเดินเชียงคาน” นับว่าเป็นถนนสายหลักของนักท่องเที่ยว หากเป็นช่วงวันหยุดคนจะแน่นมาก ตามสองฝั่งของถนนจะเป็นบ้านเรือนรูปแบบเก่าดัดแปลงให้เข้ากับสมัยนิยมได้อย่างลงตัว

7.อุทยานแห่งชาติภูเรือ จ.เลย

ภูเรือ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู เพราะจะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี บนยอดภูเขาจะมีอากาศหนาวจัดในฤดูหนาว จนมีแม่คะนิ้งให้ชมกันทุกปี คำว่า “ภูเรือ” มาจากลักษณะของภูเขาที่ยื่นออกมาคล้สยเรือสำเภาขาดใหญ่และส่วนที่ราบบนภูเขามีลักษณะคล้ายท้องเรือ คนโบราณจึงเรียกว่าภูเรือนั้นเอง

8.ภูป่าเปาะ จ.เลย

เที่ยวเมืองไทยแบบไปถึงญี่ปุ่นต้องมาที่นี่เท่านั้น เป็นภูเขาสวยๆมีความคล้ายคลึงกับ ภูเขาไฟฟูจิ ไฮไลท์ของที่นี่คือ บรรยากาศของวิวทิวทัศน์สวยๆ บนจุดชมวิว อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 900 เมตร สามารถมองเห็น ภูหอ ที่มีลักษณะเป็นภูเขายอดตัด หรือ ภูเขายอดราบ ได้อย่างชัดเจน ยิ่งถ้ามาเที่ยวในช่วงที่มีทะเลหมอกปกคลุม นึกว่า ภูเขาไฟฟูจิยามา ในประเทศญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว

9.วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จ.อุบลราชธานี

หลายคนจะรู้จักในนาม วัดเรืองแสง วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ บนยอดเขาเราจะสามารถมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทอง ตั้งเด่นสง่างามมากๆ ด้านหลังของอุโบสถจะเป็นงานจิตรกรรมเรืองแสงของต้นกัลปพฤกษ์ ในเวลากลางคืนจะสวยมาก แนะนำให้ไปในคืนเดือนมืดจะได้เจอกับดาวเรืองแสงรอบๆอุโบสถ และถ้ายิ่งมืดเราก็จะสามารถห็นการเรืองแสงของต้นกัลปพฤกษ์และดวงดาวไดเแบบชัดเจน

10.เทศกาลบั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย

เป็นเทศกาลที่นักท่องเที่ยวมาไม่ต่ำกว่าแทนคน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีการจัดกิจกรรมอย่างสนุกสนาน ที่นี่นับว่าเป็นจุดศูนย์กลางของกิจกรรมต่างๆทั้ง การบรวงสรวง การแสดง งานวัด บริเวณริมโขงมีถนนเล็กทอดตัวยาวตามลำน้ำ และมีจุดนั่งชมบั้งไฟพญานาคริมแม่น้ำโขง อีกทั้งยังสามารถรับชมวิวสวยๆบรรยากาศได้อีกตลอดแนวเส้นทาง

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอัพเดตใหม่ๆ ได้ที่ www.thaioffer.net เพื่อไม่ให้พลาดเรื่องราวดีๆ