ซักผ้ายังไงให้หอมนาน กลิ่นติดทนทั้งวัน เหมือนฉีดน้ำหอมไว้ตลอด กลิ่นของเสื้อผ้าที่เราใส่ประจำทุกวัน เป็นเรื่องที่หลายๆคนใส่ใจ และให้ความสำคัญมากๆ ยิ่งคนที่ทำงาน ออกไปเจอมลภาวะต่างๆ กลิ่นเหงื่อที่ติดตัวอีกต่างหาก วันนี้ thaioffer จะมาแชร์เคล็ดลับที่ไม่ลับในการซักผ้ายังไงให้หิมติดทนนานทั้งวันกัน มาดูแต่ละวิธีกันค่ะ

1. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มเข้มข้น

เลือกใช้น้ำยาปรับผ่านุ่มที่มีสูตรเข้มข้น ปัจจุบันมีน้ำยาปรับผ้านุ่มหลากหลายยี่ห้อ ใช้เทคโนโลยีนาโนในการนำกลิ่นน้ำหอมติดเสื้อผ้าได้ทนนานกว่าเดิม คุณชื่นชอบกลิ่นใดก็สามารถเลือกซื้อได้เลยตามห้างสรรพสินค้า มีทั้งกลิ่นดอกไม้ หอมสดชื่นเหมือนซักใหม่อยู่ตลอดเวลา กลิ่นเหมือนแป้งเด็ก ทำให้รู้สึกอ่อนโยน ละมุน โดยปัจจุบันน้ำยาปรับผ้านุ่มพัฒนาสูตรน้ำยาให้มีกลิ่นหอมแล้ว ยังไม่ทำให้แพ้หรือระคายเคือง เหมาะต่อการใช้งานทุกสภาพอากาศกันเลยค่ะ
2.ใช้สเปร์ฉีดผ้าหอม

วิธีนี้ได้รับความนิยมทำกันมากในร้านซักรีด เพราะทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมติดทน และหอมแบบดูแพง คุณสามารถเลือกใช้สเปรย์แบบฉีดผ้าหอมทุกครั้งหลักจากการซัก หรืออบผ้าได้ ที่จะเป็นวิธีที่ซักผ้าที่จะทำให้ผ้าหอมยาวนานขึ้น สเปรย์สามารถใช้ได้ทั้งกับการฉีดบนเสื้อผ้า ฉีดระงับกลิ่นภายในตู้เสื้อผ้า หรือการใช้กับเครื่องปรับอากาศ นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ
3.ใช้เครื่องอบผ้า

เป็นอีกวิธีที่ทำให้ผ้าหอมมากๆ และยังช่วยให้ผ้าที่ซักเสร็จใหม่แห้งเร็วมากขึ้น ไม่ทำให้เกิดกลิ่นอับแน่นอน เครื่องอบผ้าจึงเป็นตัวช่วยอย่างดียิ่ง พร้อมถนอมเสื้อผ้ากลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มจะมีความหอมคงทนกว่าเดิม สร้างประโยชน์ช่วยลดปัญหาภูมิแพ้ทางผิวหนัง ถ้าคุณจะเลือกใช้เครื่องอบผ้าควรเลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐานการกำจัดเชื้อโรคขนาดเล็กขนาดเล็ก
4. ใช้ผงซักฟอกสูตรเข้มข้น

ผงซักฟอกเป็นหนึ่งวิธีที่ทำให้ผ้าหอมมีความสำคัญไม่แพกับน้ำยาปรับผ้านุ่ม ดังนี้เราจึลเือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นสูตร ลดปัญหากลิ่นอับ สูตรที่จากผ้าในที่ร่มได้ สูตรไม่ง้อแดด หรือสูตรที่ฆ่าแบคทีเรียโดยเฉพาะ เพื่แอที่จะทำให้คุณปลอดภัยและมีกลิ่นหอมติดเสื้อผ้า ปัจจุบันการผลิตผงซักฟอก ยังมีการผลิตกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เป็นส่วนผสมของผงซักฟอกสามารถใช้ซักให้เสร็จภายในครั้งเดียว เสื้อผ้าจะมีกลิ่นที่หอมติดทน ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้เราประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณอีกด้วย
5. แยกผ้าก่อนการซัก

การแยกผ้าก่อนการซัก จะช่วยให้ลดกลิ่นและความสกปรกได้เป็นอย่างมาก ควรแยกระหว่าง เสื้อ กางเกง กระโปรง และชุุดชั้นใน เพื่อมทำให้วิธีการซักเป็นไปอย่างถูกต้อง เนื่องจากเสื้อผ้าแต่ละแบบจุดที่มีความสกปรกจะแตกต่างกัน ดังนั้นการแยกเสื้อผ้าจึงเป็นวิธีสำคัญมากๆที่จะทำให้ผ้าสะอาดและมีกลิ่มหอมนาน
6. ซักผ้านในปริมาณที่เหมาะสม

การใส่เสื้อผ้าลงไปในเครื่องซักผ้าเยอะๆ ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เพราะจะทำให้เสื้อผ้าสะอาดไม่ทั่วถึงแล้วคารบสกปรกก็ยังออกไม่หมดอีกด้วย แถมยังก่อให้เกิดกลิ่นอับเหม็นต่างๆ ที่ติดเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น เพราะการปั่นผ้าที่มีความหนาแน่นในเครื่อง จะไม่สามารถกระจายผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ทั่วถึง ก่อให้เกิดกลิ่นอับหรือสีของเสื้อผ้าหมองคล้ำลงได้
7. ตากผ้าในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท

วิธีที่ซักผ้าให้หอมติดทนนาน ไม่ควรตากกลางแจ้ง หรือโดนแสงแดดแรงจัด เพราะอาจจะทำให้เสื้อผ้าเสียหายและติดกลิ่นเหม็นแดดมาด้วย ซึ่งกลิ่นนี้ไม่ว่าจะน้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อใดก็เอาไม่อยู่ อาจจะพาให้กลิ่นนี้ติดตัวไปตลอดทั้งวันเลยก็ได้ เราควรที่จะนำผ้าตากภายในที่ร่ม มีลมพัดผ่าน หรือมีความร้อนกระจาบทั่วถึง และไม่ควรที่จะตากในจุดอับ เพราะจะทำให้เสื้อผ้าเกิดกลิ่นอับได้ง่ายขึ้น
8. ระยะเวลาในการแช่ผ้า

การแช่ผ้าที่นานเกินไปจะยิ่งทำให้เสื้อผ้าติดคราบสกปรกและกลิ่นอับได้ดีมากขึ้น ติดจนถึงขั้นซึมซับเข้าเสื้อผ้า ดังนั้นจึงควรแช่ผ้าไม่เกิน 15-20 นาที หรืออาจจะใช้เป็นการซักปกติไม่ต้องแช่เลยก้ได้ค่ะ เพราะน้ำยาซักผ้าหรือปรับผ้านุ่มและเครื่องซักผ้าในปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถกำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ พร้อมกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้แบบล้ำลึกและรวดเร็ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องแช่ผ้าแล้วก็ได้

คุณสามารถติดตาม ข้อมูลอัพเดตต่างๆ ได้ที่ https://thaioffer.net เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลข่าวสารดีๆ