7 วิธีดูแลรักษาตู้เย็น ไม่ให้ทำงานหนัก ยืดอายุการใช้งาน เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญมากๆ ทุกบ้านต้องมีอย่างน้อย 1 ตู้ ช่วยเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่อยู่เสมอ เพราะความเย็นช่วยหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค หรือเชื้อแบคทรีเรีย ที่ทำให้อาหารของเราเน่าเสีย ดังนั้นเราควรที่จะดูแลบำรุงรักษาให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเพื่อเซฟในอีกหลายๆจุดในบ้าน มาดูกันว่า เราจะมีวิธีดูแลรักษาตู้เย็นกันอย่างไร
7 วิธีดูแลรักษาตู้เย็น1. รออาหารเย็นก่อนแช่ตู้
หลังจากที่เราประกอบอาหารเสร็จใหม่ๆ ควรรอให้อาหารเย็นก่อนการนำเข้าไปแช่หรือจัดเก็บไว้ที่ตู้เย็น เป็นวิธีที่หลายคนมองข้าม หากนำอาหารที่ร้อนๆเข้าไปแช่ จะส่งผลโดยตรงให้ตู้เย็นทำงานหนัก และเปลืองไฟเกือยเท่าตัวนั้นเองค่ะ

2.ไม่ควรเปิด-ปิด ตู้เย็นบ่อยๆ หรือค้างไว้ การที่เราเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ หรือเปิดทิ้งไว้จะทำให้ความเย็นกระจายออกมาด้านนอก และความร้อนจากด้านนนอกเข้าไปแทนที่ ะทำให้ระบบภายในเพิ่มการทำงาน หรือทำงานหนักมากขึ้น คอมเพรสเซอร์ก็ต้องทำงานหนักขึ้น อายุการทำงานลดลงเร็วนั่งเอง

3. การดูแลตู้เย็นให้ใช้งานได้นานๆ เริ่มต้นด้วยการปรับอุณหภูมิที่เหมาะสม ในอุณหภูมิ 3-6 องศาเซลเซียส ส่วนช่องแช่แข็งอุณหภูมิ -15 ถึง -18 องศาเซลเซียส หากเราตั้งไว้เย็นกว่าที่กำหนด 1 องศาเซลเซียส จะทำให้เราสิ้นเปลืองไฟและพลังงานมากขึ้น

4. ไม่ควรงัดน้ำแข็งภายในตู้เย็น หากเราปล่อยตู้เย็นไว้นานๆจะทำให้น้ำแข็งเกาะตัวเป็นก้อนใหญ่มากๆในช่องแช่แข็ง 1 ปัญหาที่หลายบ้านเจอบ่อยมาก แต่จะรู้หรือไม่การใช้ทางลัดโดยที่คิดว่าใช้เวลาน้อยนิด จะทำให้เราประหยัดไฟ นั่นคือเป็นวิธีคิดที่ผิดมากๆเลยนะคะ วิธีที่ถูกต้องคือการปรับอุณหภูมิหรือถอดปลั๊กตู้เย็ต เพื่อทำการละลายน้ำแข็งแทน เพื่อไม่ให้ตู้เย็นเกิดความเสียหาย และเป็นวิธีที่ถูกต้องอีกด้วยนะคะ

5. การจัดวางตำแหน่งของตู้เย็น การเลือกพื้นที่จัดวางตู้เย็นก็มีผลนะคะ เราไม่ควรวางใกล้ชิดผนังเกินไป ควรเว้นพื้นที่รอบๆของตู้เย็นประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อให้ระบบระบายความร้อนของตู้เย็นเป็นไปตามปกติ และไม่ควรวางใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นที่ให้ความร้อนที่ต้องใช้เป็นประจำ เช่น เตาอบ เตาแก๊ส หรือหม้อไฟฟ้า เพราะจะทำให้ตู้เย็นได้รับความร้อนเพิ่มมากขึ้น

6. เก็บของในตู้เย็นให้เหมาะสม การที่เรายัดทุกอย่างเข้าในตู้เย็น จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก เพราะต้องคอยทำให้ความเย็นให้กระจายทั่วถึงและสม่ำเสมอเพื่อรักษาคุณภาพของอาหาร การใส่ของมากๆนอกจากจะทำให้ไม่เกิดผลดีแล้วยังทำให้อาหารเน่าเสียได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากความเย็นไม่เพียงพอนั่นเอง

7. แยกการเสียบปลั๊กใช้งานให้เหมาะสม ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟฟ้าเยอะ จึงไม่ควรใช้ร่วมกับปลั๊กอื่นๆ โดยเพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนเช่นตู้อบ หรือหม้อหุงข้าว ควรที่จะติดตั้งเต้าเสียบที่แข็งแรงแยกออกมาเลย เพื่อให้การรองรับที่เหมาะสมกำลังไฟ แถมช่วยให้ตู็เย็นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพิ่มความปลอดภัยให้คนในบ้านอีกด้วย

การดูแลรักษาเบื้องต้นเป็นวิธีที่ง่ายมากๆ ที่เหล่าคุณแม่บ้าน สามารถทำได้เลย โดยไม่ต้องศึกษาวิธีหรือขั้นตอนอะไรมากมาย แค่ 7 วิธีที่ทาง thaioffer แนะนำก็จะช่วยคุณแม่บ้านดูแลรักษารักษา ยืดอายุการใช้งานตู้เย็นที่บ้านได้แบบยาวกันไปเลย แถมยังช่วยประหยัดไฟฟ้าอีกด้วยนะคะ

 

สามารถติดตามข้อมูล ข่าวสารอัพเดตใหม่ๆทุกวัน ได้ที่ www.thaioffer.com เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลหรือเรื่องราวๆดี